วันนี้ (24 มิถุนายน พ.ศ. 2568) เวลา 13.00 น. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย คุณศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คุณจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ คุณดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่แผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีกลุ่มเป้าหมาย จากศูนย์เรียนรู้ฯ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 397,610 บาท (สามแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันหกร้อยสิบบาทถ้วน) พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์ให้แก่ผู้พิการ จำนวน 10 ราย และมอบรถจักรยาน จำนวน 20 คัน กระบอกน้ำขนาด 1 ลิตร ในโครงการ "จักรยานเพื่อน้องสัญจร" แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนในส่วนภูมิภาค รวม 2 แห่ง คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 65,552 บาท (หกหมื่นห้าพันห้าร้อยห้าสิบสองบาทถ้วน)
.
ในโอกาสนี้ ได้มอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ จำนวน 2 ชุด (4 ชิ้น) คิดเป็นมูลค่า 133,200 บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นสามพันสองร้อยบาทถ้วน) เพื่อใช้ในหลักสูตรฝึกอบรมทักษะอาชีพดูแลผู้สูงอายุ จากโครงการ "สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์"
.
นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ได้นำหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำโดย คุณเนาวรตัน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์ นำทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่แผนกหน่วยแพทย์ฯ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัย และอาสาสมัครหน่วยแพทย์ ออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยาตามอาการ คัดกรองเบาหวานเบื้องต้น แจกแว่นสายตา บริการตัดผมชาย-หญิง และบริการทันตกรรม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
.
โดยมี ผศ.ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ที่ปรึกษาอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คุณสงวน สุธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 5 และ คุณศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ ร่วมในพิธีมอบ ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา จังหวัดขอนแก่น
.
การดำเนินโครงการ “ ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว ” ระหว่างมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กับ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยการคัดกรองผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม เสริมทักษะอาชีพ ส่งมาให้มูลนิธิฯ พิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยหวังว่า “โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” นี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป